วันพฤหัสบดีที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2553

องุ่น คลอดลูกคนที่สองแล้ว

องุ่น จุฬาพร ศรีบรรเทา (เชตวัน) หลังจากที่เธออุ้มท้องไปร่วมงานแต่งงานของบิ๊ก อุมาพร เมื่อ 25 ก.ค.2553 ที่ผ่านมา
ล่าสุด องุ่นได้คลอดลูกคนที่สองแล้ว เมื่อ 10 ส.ค.2553

แน่ นอนว่า คนที่ทำคลอดให้ คือ หมอท็อป อุกฤษฎ์ นี่เอง

ลูกคนที่สองของ องุ่น ได้ลูกชาย
ขอแสดงความยินดีด้วยเด้อ

ส่วนเพื่อนที่เป็น พยาบาลอีกคน สุวรรณา ชัยนาม มีกำหนดคลอด ปลายเดือน ต.ค.2553 นี้

เพลินพิศ & สุมาลี เปลี่ยนเบอร์ใหม่แล้ว

ช่วงนี้ เพื่อนๆเราเปลี่ยนเบอร์โทร เปลี่ยนซิมกันหลายคน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ทำให้โทรติดต่อกันไม่ค่อยได้
อย่าง เพลินพิศ ตอนนี้ เปลี่ยนเบอร์ใหม่แล้ว เพราะได้ซิมใหม่ ที่เค้าเอามาแจก เป็นของ GSM
โทร ฟรีตอนกลางวัน

เบอร์ใหม่ของเพลินพิศ คือ 081-2603180

ส่วน สุมาลี ณ บ้านบึง ชลบุรี ก็เปลี่ยนเบอร์ใหม่เช่นกัน
083-5898499

อัพเดทเบอร์ โทรกันด้วย

ชัยรัตน์ บุกอุดร เมื่อวานนี้

มีภารหน้าที่ต้องเดินทางมาฝึกร่วมกับ ทัพบก ทัพอากาศ และทัพเรือ ที่ จ.อุดรธานี เมื่อหลายวันก่อน
ชัยรัตน์ คำภิรมย์ ก็ไม่ลืมที่จะติดต่อเพื่อนที่อยู่ที่อุดร ซึ่งได้โทรไปทักทาย รายงานตัวกับ หยกฟ้า เรียบร้อยแล้ว
ค่ำวันที่ 25 ส.ค. 2553 ชัยรัตน์ โทรมาทักทายนายบอนด้วยความคึดฮอด ชวนมากินข้าวที่หนองคาย ร้านอาหารในอุดร
มี อุ้ม ชัยสุนทร วิเศษนันท์ พามาเลี้ยงมื้อเย็น ส่วนหยกฟ้า โทรหาไม่ติด เลยไม่มีโอกาสได้กินมื้อเย็นด้วยกัน

พอถามไถ่ว่า จะอยู่กี่วัน ชัยรัตน์บอกว่า จะกลับวันที่ 26 ส.ค.นี้แล้ว เลยไม่ได้เจอกันเลย นึกว่าจะอยู่หลายวัน
เผื่อจะแวะไปเยี่ยมที่อุดรมั่ง

ชัยรัตน์ จะได้ลงไปปฏิบัติหน้าที่ในภาคใต้ คาดว่า ราวๆปลายเดือน กันยายน 2553 นี้...

วันพุธที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ครบรอบ 1 ปี kpsgang... และราคาของความเป็นพื่อน



            แป๊บเดียว เวลาผ่านไปแล้วครบ 1 ปีเต็ม ของเวบ kpsgang.blogspot.com หลังจากปิดเวบ kpsclub เมื่อตอนดึกวันที่ 24 ส.ค.2552 หลังเดินออกจากร้านแฟนฉัน ถูกใครบางคนในร้านด่าจนหนำใจ แล้วเดินหนี ไม่ยอมฟังเพื่อน 3 คนพูดบ้าง ความจริง ถ้ายอมฟังเพื่อนพูด อย่างที่เพื่อนอดทนฟังแล้ว คงไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นแบบนี้ (อ่านบันทึก
kps gang news หยุดทำเวบรุ่น กพส.35 kpsclub
)


            1 ปีผ่านไป ถ้าสังเกตสักนิด ช่วงปีก่อนจะมีรูป+วิดีโอให้ดูในเวบตลอด เดี๋ยวไปมิตติ้งเจอเพื่อนที่จังหวัดต่างๆ ได้เห็นเพื่อนที่ไม่เจอกันมานานทางเวบ  แต่เดี๋ยวนี้ ไม่มีแบบนั้นอีกแล้ว ข่าวของเพื่อนที่เคยรู้ ก็เงียบหายไป ให้เพื่อนๆไปสมัคร facebook ติดต่อกัน "เพื่อจะได้ค่อยๆเลิกทำ kpsgang ค่อยๆหายไปตามวันเวลา  อย่างแนบเนียน"


            ผ่านไป 1 ปีได้เห็นอะไรมากมาย  เห็นราคาของความเป็นเพื่อน ที่มีเพื่อนหลายคน ก็สังเกตเห็นเช่นกัน


            อย่างคำถามต่อเรื่องที่เกิดขึ้น ที่ว่า "ได้ข่าวว่า นายมีเรื่องผิดใจกับเก๊าะเหรอ "  , "ให้อภัยกันได้มั้ย ยังไงก็เพื่อนกันนะ " เพื่อนหลายคนพูดแบบนี้


            แต่เพื่อนอีกหลายคนที่รู้เรื่องราว บอกว่า "ช่างมันเถอะเพื่อน เค้าให้ราคาของความเป็นเพื่อนต่างกัน ถ้าเป็นเพื่อนชื่อ..... เค้าคงไม่พูด ไม่ทำอะไรแบบนั้นแน่ๆ  เพราะในสายตาของเค้า ความเป็นเพื่อนระหว่างนาย เทียบกับเพื่อนที่ชื่อ... มันต่างกัน"


            "ความเป็นเพื่อนมีหลายระดับนะ เพื่อนคนสำคัญ, เพื่อนทั่วๆไป, เพื่อนปลายแถว, จนถึง เพื่อนร่วมโลก ราคาความเป็นเพื่อนต่างกัน คุณค่าต่างกัน ให้ความสำคัญก็ต่างกัน  ถ้าเกิดผิดใจกัน หากเพื่อนมีความสำคัญมากพอ  เค้าจะพยายามหาทางมาปรับความเข้าใจกันแล้ว"


            มาถึงคำถามสำคัญ
            " ถ้าเกิดเค้ารู้สึกผิด อยากแก้ไข แล้วจะยอมให้อภัย ยกโทษ  คุยกับเค้าได้เหมือนเดิมมั้ย"

            เออ.. คำถามนี้ ได้ยินแต่เพื่อนถาม และคิดแบบนี้ แล้วเจ้าตัวเขาคิดแบบนี้หรือเปล่าล่ะ?

            สังเกตดูจากเพื่อนๆที่เจอเค้า ดูเหมือนบางคน คล้ายจะใส่หน้ากากเมื่อเจอหน้า ทำเหมือนไม่มีอะไร แต่ลับหลัง แสดงความไม่พอใจต่อเค้า

            เพื่อนมีความจริงใจให้กันมากแค่ไหน เพื่อนแต่ละคนมีอายุมาถึงตอนนี้ ชีวิตผ่านอะไรมาก็เยอะแล้ว มองออกว่า ใครจริงใจ ไม่จริงใจอย่างไร ทุกๆคนอยากเจอคนที่จริงใจกันทั้งนั้น  ความจริงใจที่แสดงออกมาทั้งคำพูด และการกระทำ แค่นี้เอง ก็ให้อภัย ยกโทษให้ได้เสมอ แล้วเพื่อนพยายามทำในสิ่งที่ควรทำแล้วหรือยัง

            มีเพื่อนหลายคนที่ไม่พอใจ เสียความรู้สึกกับเค้าเหมือนกัน แต่เค้าก็อยู่ของเค้า เจอเพื่อนดีๆ เพื่อนรัก เพื่อนตายตั้งเยอะ ไม่เห็นจะต้องกลับมาพบเจอกันอีก หากการมาเจอกัน ทำให้เสียความรู้สึกที่ดีๆ เพิ่มมากขึ้น ไม่เจอกันยังจะดีกว่า อย่างน้อย ยังจะเหลือความรู้สึกที่ดีๆไว้บ้าง


            "เพื่อนมีตั้งหลายคน ทำไมเราจะต้องให้ความสำคัญกับเพื่อนที่ไม่เห็นคุณค่าความเป็นเพื่อนกับเรา ล่ะ ในเมื่อเราก็มีเพื่อนที่รักเรา จริงใจกับเรา เห็นความสำคัญของเรามากกว่า ก็เหมือนเค้า ที่มีเพื่อนที่เห็นคุณค่า รัก ห่วงใยเค้า จริงใจกับเค้า เห็นความสำคัญของเค้าเช่นกัน ........ เค้าก็อยู่ของเค้า เราก็อยู่ของเรา  ก็มีความสุขกับชีวิตตามเส้นทางของแต่ละคนอยู่แล้วนี่นา"


            .. อันนี้เป็นข้อคิดสำหรับวันครบรอบ 1 ปี kpsgang


            สำหรับปีหน้า 24 ส.ค.2554 จะยังมีข่าวคราวใน kpsgang หรือไม่ ไม่รู้เหมือนกัน บางที เพื่อนหลายคนอาจจะติดใจ+ผูกพันกับ facebook  มีเพื่อนใหม่ๆและติดต่อสื่อสารกับเพื่อน กพส.ด้วยกันจนกลมเกลียวแน่นแฟ้นเลยก็ได้  ส่วน kpsgang ก็คงมีเวลาของมันเองเหมือนกัน
                           

            ขอบคุณที่ติดตามกันมา......

5 ภาพไปเยี่ยมครูอั้ง ทรงสิทธิ์ ทองจรัส ที่โรงเรียนบ้านนาจำปา อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ เมื่อ 19 ส.ค.2553

            ชีพจรลงเท้ายามสายวันที่ 19 ส.ค.2553 จากกาฬสินธุ์ไปยังอำเภอดอนจาน ระหว่างขับรถอยู่ องอาจก็นึกถึงทรงสิทธิ์ ทองจรัสขึ้นมา เจอกันครั้งล่าสุด เคยบอกกับทรงสิทธิ์ว่า วันไหนผ่านไปจะแวะไปเยี่ยมถึงบ้าน เลยโทรศัพท์ไปหา ทรงสิทธิ์บอกว่า อยู่ที่โรงเรียนบ้านนาจำปา แวะมาหาตอนนี้ได้เลย


            หลังจากโทรสอบถามเส้นทาง และจอดถามทางกับชาวบ้าน ก็ขับรถเข้าถึงตัวอำเภอดอนจาน แล้วเลี้ยวเข้าตรงวัดิวเศษไชยศรี ผ่านหน้าโรงเรียนหนองแคนวิทยา เห็ยป้ายบอกทางไปโรงเรียนนาจำปา องอาจขับรถไปจนถึงทางแยก มองเห็นป้ายชื่อโรงเรียน เลยเชี้ยวซ้ายไป ขับรถไปเรื่อยๆจนถึงโรงเรียนจำปาหลวง ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยม ฝั่งตรงข้ามเป็นสถานีอนามัยบ้านนาจำปา โทรถามทรงสิทธิ์อีกครั้ง ก็บอกว่าให้ตรงไปเรื่อยๆ เลยขับตรงไป จนออกจากเขตหมู่บ้าน จนจะเข้าเขตบ้านหนองโพน ถึงเอะใจ เลี้ยวรถกลับ และจอดถามทางกับชาวบ้านแถวนั้น เลยต้องขับรถกลับมายังบ้านนาจำปา เลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทาง แป๊บเดียว ก็มาถึงโรงเรียนนาจำปา ซึ่งเป็นโรงเรียนประถม ผ่านหน้าประตูทางเข้า ที่กำลังเทพื้นใหม่ เลยขับไปเข้าทางด้านหลัง โผล่มาจอดรถที่สนามหน้าอาคารเรียน เห็นครูทรงสิทธิ์ เดินดุ่ยๆ ถือเอกสารอยู่ พอเห็นเพื่อน ครูอั้ง ทรงสิทธิ์ก็เรียกเด็กนักเรียน เอาเอกสารไปส่งให้ครูที่นั่งอยู่ที่โรงอาหาร แล้วก็เดินมาหาเพื่อน



            หลังจากทักทายกันแล้ว ก็พาขึ้นมาอาคารเรียน ผ่านห้อง ผอ.โรงเรียนที่วันนี้ ไปราชการที่อื่น มานั่งคุยกันที่ห้องพักครู เลยถ่ายรูปนี้ไว้


kpsgang photo


kpsgang photo




            มองดูบอร์ดในห้องพักครู ชื่อ ครูทรงสิทธิ์ สอนชั้น ป.5 แต่อั้งบอกว่า นั่นเป็นข้อมูลเก่า ตอนนี้สอนชั้น ป.6  แล้วนั่งคุยกับองอาจจนถึงเที่ยง เลยพาไปกินข้าวที่ร้านอาหารตามสั่งใกล้โรงเรียน ครูอั้งเอาห่อข้าวกล่องใหญ่ เห็นแว๊บๆ เป็นข้าวกล้อง มีกับ มีผัก ดูน่ากินจัง แต่ครูอั้งเอากล่องข้าวไปให้เพื่อนครูที่นั่งอยู่ที่โรงอาหารของโรงเรียน ช่วยจัดการให้ แล้วก็ขึ้นรถออกไปกินข้าวกับเพื่อนๆ


kpsgang photo



            กินกันไป คุยกันไป เมนู ส้มตำ ไขเจียว และต้มแซบๆ อย่างที่เห็น หลังจากอิ่มกันแล้ว องอาจ ขอเป็นเจ้ามือเลี้ยงข้าวมื้อนี้ซะเลย แล้วก็มาส่งครูอั้งที่โรงเรียน พูดคุยกันส่งท้ายจนได้เวลาพอสมควร ก็ร่ำลาและเดินทางกันต่อไป


kpsgang photo

kpsgang photo

15 ภาพจากสวนยางขององอาจที่บ้านโคกน้ำเกลี้ยง เมื่อ 19 ส.ค.2553

            ลงทุนลงแรงทำสวนยางมานานพอสมควร แล้ววันนี้ก็ได้มีโอกาสได้เข้าไปดูสวนยางพาราขององอาจที่บ้านโคกน้ำเกลี้ยง ซึ่งมีการกรีดยางในแบบกรีด 2 วัน พัก 1 วัน ได้น้ำยาง ทำเป็นยางแผ่นออกมาได้โดยเฉลี่ยวันละ 30 แผ่นขึ้นไป ภาพที่ถ่ายมาให้ดู เป็นยางแผ่นที่กรีดมาได้เมื่อวาน (18 สค)  ลองนับกันดูว่ายางแผ่นที่ตากไว้ ได้กี่แผ่น


            นี่คือ สวนยางพาราขององอาจ เฉพาะที่บ้านโคกน้ำเกลี้ยงเท่านั้น...ยังไม่รวมที่อื่น


kpsgang photo

kpsgang photo

kpsgang photo

kpsgang photo

kpsgang photo

kpsgang photo

kpsgang photo

kpsgang photo

kpsgang photo

kpsgang photo

kpsgang photo

kpsgang photo

kpsgang photo

kpsgang photo

kpsgang photo

วันพฤหัสบดีที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2553

รำลึก 14 ปี การจากไปของใหญ่ ชาญสิทธิ์ ฉายถวิล




            "บักดีด โทรไปบอกว่าบักใหญ่ตายแล้ว"
            ชาย วุฒิชัย พูดถึงเพื่อนที่ชื่อชาญสิทธิ์ ฉายถวิลที่เสียชีวิตในระหว่างเดินทางกลับบ้านมาที่กาฬสินธุ์ เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2539  แม้จะผ่านมาหลายปี แต่บักแข่ว-ขายมักจะพูดรำลึกถึงใหญ่-ชาญสิทธิ์อยู่ตลอด เมื่อ 1 ธันวาคม 2552 บักแข่ว โทรมาหานายบอนและเสนอว่า อยากให้เขียนบันทึก รำลึกถึงบักใหญ่ชาญสิทธิ์ รวมไปถึงเพื่อนๆที่จากพวกเราไปแล้ว ...
            สำหรับใหญ่ ชาญสิทธิ์ นั้น หลังจากเสียชีวิตไปแล้ว บักแข่ว เคยทำ powerpoint  เพื่อรำลึกถึงใหญ่ และบอกว่า เดี๋ยวจะส่งไฟล์นั้นมาให้เผยแพร่ในเวบ  kpsgang  
            3 ธันวาคม 2552 บักแข่วและบิ๊ก อุมาพร ไปเยี่ยม อ.พิชษฐ์ และ อ.กฤษณา ดลแม้นที่บ้านพัก แล้วก็พูดถึง ใหญ่-ขาญสิทธิ์อีกช่วงหนึ่ง



        "ช่วงที่บักใหญ่ตาย เรานั่งรถมากาฬสินธุ์ ได้นั่งเขียนบทกวีให้ พอมาถึงกาฬสินธุ์ ก็จ้างรถสามล้อเครื่องไปยังบ้านงาน ตอนมืดๆค่ำๆ"
        (ส่งมาเผยแพร่มั่งสิวะ หรือจะแต่งใหม่ รำลึก 14 ปีก็ได้นะแข่ว)

            "เราไม่กลัวผีนะ แต่ใหญ่อย่าพึ่งมาหาเราตอนนี้นะ"

         ช่วงที่จัดงานศพ มีเพื่อนๆไปนอนบ้านบักใหญ่ ไอ้แอ้ทพูดขึ้นมาว่า "ใหญ่ยังอยู่แถวนี้มั้ยนะ ถ้ายังไม่ไปไหน มาให้เห็นด้วย"   
            แต่มีเสียงทักท้วงว่า อย่าโผล่มาให้เห็นตัวนะ ให้เห็นเป็นแสงหิ่งห้อยก็ได้
            ระหว่างเดินทางออกมาถึงแถวๅบ้านโคกศรี หรือบ้านดอนยานางนี่แหละ ก็เห็นหิ่งห้อยตามมา
            " แม่ๆๆ บักใหญ่มันตามเรามาน่ะ"

            นี่เป็นเสี้ยวหนึ่งจากความทรงจำที่บักแข่ว พูดถึงใหญ่เมื่อ ธันวาคม 2552 ถ้าให้เล่าเรื่องของบักใหญ่-ชาญสิทธิ์ อีก บักแข่วคงจะมีเรื่องที่จะพูดถึงอีกมากมาย

            หลังจากออกจากบ้านพักของ อ.กฤษณา เมื่อ 3 ธ.ค.2552 บักแข่วขับรถออกมา ก็พูดถึงบักใหญ่อีก จนมาถึงหน้าวัดสว่างคงคา มาเลี้ยวรถตรงหน้าประตูวัด หน้าเมรุเผาศพพอดี บักแข่วกับบิ๊ก เลยต้องหยุดพูด แล้วมุ่งหน้าไปยังบ้านปุ๋มเล็กต่อไป
            บักแข่ว มักจะพูดถึงบักใหญ่เสมอๆ เพราะเป็นหนึ่งในกลุ่มเพื่อนที่ต่อสู้ขวนขวาย ไขว่คว้าฝันตามเส้นทางชีวิตที่เลือกไว้ แต่ใหญ่ เกือบจะไปถึงฝั่งฝันแล้ว แต่โชคร้ายต้องมาจากไปก่อนเวลาอันควร.....

            ...สำหรับนายบอนแล้ว ประทับใจตรงรอยยิ้ม และความเป็นกันเองของใหญ่ชาญสิทธิ์ มีครั้งหนึ่ง เคยชวนปุ๊ก ยงยุทธ ปั่นจักรยานจากในเมืองกาฬสินธุ์ ไปจนถึงบ้านโนนแพง บ้านของใหญ่ เหนื่อยกันสุดๆ ใหญ่ก็เอากับข้าวมาให้ทาน หลังจากได้ข่าวใหญ่ สอบได้ตามที่ตั้งใจไว้ ก็ชื่นชมยินดีด้วย แต่วันหนึ่ง เจอนราดลใน ม.ขอนแก่น บอกว่า บักใหญ่ตายแล้ว ได้แต่อึ้งๆ เพราะวันที่รู้ข่าว เวลาก็ผ่านไปหลายเดือนพอสมควร
             
            ผ่านไป 14 ปีแล้ว  บักใหญ่ ยังคงอยู่ในใจของบักแข่ว และเพื่อนๆหลายคนอยู่เสมอ  จะเหลือเพื่อนอีกกี่คน และจะมีเพื่อนอีกกี่คนนะ ที่ยังรำลึกถึงเพื่อนและพูดถึงเพื่อนได้ตลอด...

            เพื่อนยังอยู่ในใจเสมอ

            บันทึกนี้เขียนเมื่อ 24 มกราคม พ.ศ.2553



          เมื่อ บักแข่ว สมัครใช้ Facebook: http://www.facebook.com/pongwutthichai ก็ไ่ด้เอารูปถ่ายเก่าๆ และเขียนรำลึกถึง ใหญ่ ชาญสิทธิ์ ด้วยความรัก ความผูกพัน เื่มื่อ 18 กรกฎาคม 2553

ขอยกมาร่วมรำลึกในวันนี้ ....ดังนี้..








ต่างคน
ต่างใจ
ต่างมีความฝัน
ต่างก้าวเดิน
บนพื้นฐาน...แห่งความผูกพัน.








บักใหญ่...ได้ทุนไปฝึกอาคิโด/คาราเต้...ที่แดนปลาดิบ...ไปส่งมันที่ดอนเมือง
ในรูปนี้ บักใหญ๋...น.ร.ต







น้องโทรบอกข่าวสุดเศร้า
ระหว่างนั่งรถทัวร์สู่กาฬสินธุ์
...เขียนบทกวี..ให้มัน 32บท
กว่าจะถึงบ้านมันก็มืด
รุ่งเช้า
...นั่งอ่านบทกวี...ที่เขียนด้วยลายมือตัวเอง
อ่านให้มันฟัง...
ไอ้เพื่อนยาก...
มึง"ไปไม่ถึงดวงดาว"จริงๆ
ในรูปนี้ บักชาย-วิศวะ-ลาดกระบัง, บทกวี-/บทบนเส้นทางแสนเศร้า,






บักใหญ่
สิ่งสุดท้าย...
ที่เพื่อนคนหนึ่ง...อย่างกู
จะทำเพื่อมึง...และกูทำได้
ก็คือ...
...บวช...
บวชจูง...บวชส่ง...มึงไปสู่สุคติ
...มึงจำได้
"เราเป็นเสี่ยวกัน"

...ไม่จืดจางร้างลา...แม้เวลาล่วงเลย...จะอยู่เป็นนิรันดร์..

โดยพงศ์วุฒิชัย ชุษณะโยธิน
หน้า Facebook: http://www.facebook.com/pongwutthichai

คลิปวิดีโอ กับเพื่อนสาวแก๊ง โอ-ทู จาก ปัทมา แสนเมธา ก.พ.ส. รุ่น 62  ที่จบปี37

คลิปวิดีโอ กับเพื่อนสาวแก๊ง โอ-ทู
รวมภาพถ่ายสมัยเรียน กพส. ในรูปแบบคลิปวิดีโอ
เผยแพร่ครั้งแรกทาง
http://www.facebook.com/kpsgang




ฝีมือของ ปัทมา แสนเมธา ( หรือ ปุ๊ก ปัทมา ฆารประเดิม)
(โรงเรียนบ้านโฮ่ง จ.เชียงราย)
http://kruthaicr2.ning.com/profile/patama
18 กรกฎาคมเวลา 16:50 น.

วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เพื่อนๆกับคนรักใน facebook/kpsgang

            ใน facebook ใครก็สมัครใช้ได้ มีเวบ facebook เป็นของตัวเองได้ มีเพื่อนเข้ามาเพิ่มเติมเรื่อยๆ ที่ไม่เคยเจอกันตั้งแต่สม้ยเรียนจบ ก้ได้คุยกันอีกครั้ง


            ได้ติดต่อกับเพื่อน ได้รู้จักกับคนรักของเพื่อนที่กลายเป็นคู่ครอง คู่ชีวิตไปแล้ว ใน facebook ก็ได้เห็นเพื่อนกับคู่รัก หลายคน ได้เห็นรูปก็มี อย่าง โอ๋ ชัยวุฒิ- ไข่อรจิตร , ภราดร-บังอร หมี ธนวรรธน์กะคนที่บ้าน...เออ เมียน่ะแหละ  ฟ้ารุ่งก็มีรูปกับคนในครอบครัวมาให้ดูบ่อยๆ ใน facebookของเพิ่น


            แม้ไม่ใช่เพื่อนๆ กพส. แต่เมื่อแต่งงานกับเพื่อนเรา ก็อยากรู้จักเหมือนกันนะ และแล้ว .."เจง" ที่เป็นแม่ของน้องฟง ลูกชายของรอง ธวัชชัย ถึงฝั่ง ก็เข้ามาแจมใน facebook "เราเล่นแทนรองนะ" แหม ถ้าไม่ใช่แฟน ทำแทนไม่ได้หรอก แต่นี่ยิ่งกว่าแฟน เลยเล่น facebook แทนรองซะเลย


            อันนั้นเล่น facebook แทนกัน แต่คู่นี้ มี facebook เป็นของตัวเองทั้งคู่ บักชาย-พงศ์วุฒิชัย กะหนึ่ง..เมียรัก หนึ่งเป็นคนสอนให้ชายใช้ facebook เป็น มี facebookของใครของมัน และเป็นแฟนคลับ facebook/kpsgang ทั้งคู่


            แต่คู่นี้ เด็ดกว่า กับคู่แต่งงานใหม่ๆหมาดๆ บิ๊ก อุมาพร กับพี่เก๋ ยุทธชัย มี facebook กับเค้าเหมือนกันนะ


            คืนวันที่ 7 ก.ค.2553 ยามดึกสงัด จู่ๆ Umaporn Phuphanpet (อุมาพร ภูพานเพชร) ก็เข้ามาโพสต์ข้อความอย่างที่เห็น

photo kpsgang





            facebook ของบิ๊ก แต่ข้อความลงชื่อพี่เก๋


            อูย....ใช้ facebook เดียวกันแล้วนะเนี่ย นอกจากจะผลักกันเข้ามาเช็คข่าวว่า จะถูกนินทา พาดพิงยังไงจากเวบแล้ว เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าใช้ facebook อันเดียวกันด้วย ล็อคอินเดียวกันซ้า... ด้วย เพื่อนๆที่ส่งข้อความทักทาย คุยกับบิ๊กทาง facebook ดูดีๆนะครับ ว่าเป็นบิ๊ก หรือพี่เก๋


            ...ว่าแต่ว่า จะคุยกันคนไหน ก็ถึงบิ๊กทั้งนั้นแหละ เพราะเค้าเช็คข่าวให้กัน แล้วก็เล่าสู่กันฟังตลอดอยู่แล้ว

วันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2553

วันเกิดที่ผ่านไปของฟ้ารุ่ง กับ kpsgang คนอื่นๆ

        วันเวลาผ่านไป เดี๋ยวก็เวียนมาถึงวันคล้ายวันเกิดของเพื่อนๆแต่ละคน วันก่อนเป็นวันเกิดของฟ้ารุ่ง  ณ อเมริกา วันเกิด.. เราจะได้เห็นอะไรดีๆ ได้รู้ว่า เพื่อนนึกถึงเพื่อนมากแค่ไหน


        ในเวบ kpsgang แต่ก่อน ทำกล่องแจ้งข้อมูลวันเกิด  จะบอกวันเกิดของเพื่อนแต่ละคน ตามช่วงเวลา มีกล่องข้อความไว้ให้เขียนความเห็น จะเห็นน้ำใจของเพื่อนว่า ใครใส่ใจ สนใจเพื่อนบ้าง สละเวลาเขียนอวยพรวันเกิด แม้จะเป็นข้อความสั้นๆไม่กี่ประโยค แต่มีความหมายกับเพื่อนเจ้าของวันเกิดยิ่งนัก

        คิดดูสิ เพื่อนหลายคนเปิดเวบ แต่มีเพื่อนเพียงไม่กี่คนที่อวยพรวันเกิดให้ ใช้เวลาแค่ไม่กี่นาที แต่มันบอกได้ว่า เพื่อนคนนั้น  ใส่ใจ สนใจ ให้ความสำคัญกับเพื่อนแค่ไหน

        พอมาใช้ facebook - fb เพื่อนที่สมัครใช้ fb นี่ชัดเจนเลย ใส่วันเกิดไว้ชัดเจน คลิกเข้าไปเขียนอวยพรวันเกิดได้ง่าย  ... เพื่อนหลายคนที่กดเพิ่มเพื่อน ตั้งหลายคน แต่จะมีเพียงไม่กี่คนที่เขียนอวยพรวันเกิดให้เพื่อน


        ถึงแม้จะไม่ได้เปิดเข้าอินเตอร์เนต เข้าเวบบ่อยๆ แต่ก็ไม่มีใครว่าอะไร หากเพื่อนจะอวยพรวันเกิดย้อนหลัง หรือ อวยพรล่วงหน้า จะเขียนอวยพรไว้ใน fb หรือ จะโทรไปอวยพร หรือส่งอีเมล์ ส่งการ์ดอวยพร หรือจะอวยพรยังไงก็ตามแต่ มันบอกว่า เพื่อนมีความสำคัญกับเรามากมั้ย สำคัญมากพอที่จะสละเวลาเพียงไม่กี่วินาที เขียนอวยพรให้รึเปล่า

        นอกจากวันเกิดตัวเองแล้ว หลายคนก็ยอมรับว่า ไม่ค่อยจำวันเกิดของเพื่อนได้.... ที่จริง ไม่จำเป็นต้องจำก็ได้ มีที่ที่คอยบอก คอยเตือนให้รู้ว่า ช่วงนี้ใครมีวันเกิดมั่ง ใน fb ก็มีบอกไว้

        ใครที่มีเพื่อนใน fb มีเป็นสิบ เป็นร้อย หรือ เป็นพันคน ลองสังเกตดูนะว่า ถึงวันเกิด มีเพื่อนอวยพรกี่คน

+ + +

        วันเกิดฟ้ารุ่ง ครบ 37 ขวบ นายบอนอวยพร + คุยกันทางแชทออนไลน์ ฟ้ารุ่งบอก 37 ขวบแล้ว ยังไม่เป็นชิ้นเป็นอันเล้ย แหม มีลูกโตแล้วนี่นะ ... ถือว่าเป็นชิ้นเป็นอันแล้ว แถมน่ารักซะด้วยดิ  ฟ้ารุ่งเป็นแม่บ้าน อยู่อเมริกา เหงาๆ ก็เปิดเนตเข้า fb . ปีหน้า 2554 คงจะได้กลับมาอยู่เมืองไทย อยู่ใน กทม. เป็นการถาวร ตอนนี้ รู้สึกเป็นห่วงพี่สาว ที่สุขภาพไม่ค่อยดี กำลังมองหาซื้อบ้านอยู่ในตัวเมืองกาฬสินธุ์ เวลาที่ไม่สบายจะได้ไป รพ.กาฬสินธุ์ได้สะดวก  


        คุยไปสักพัก ฟ้ารุ่งก็ขอตัวส่งลูกไปโรงเรียน และจะไปดูแลคุณสามีที่เกิดอาการไม่ค่อยสบายในวันเกิดของฟ้า

    "อีกไม่กี่ปีจะ 40 แล้วนะ"
    นั่นสิ ชีวิตของพวกเราเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงเวลา


        ถ้าถึง 40 นายบอนคงไม่ทำเวบ ไม่มาเขียนแจ้งข่าวอะไรต่างๆในเวบอีกแล้วล่ะ  มีหลายอย่างที่อยากไปทำอีกเยอะแยะ ..


        รู้ยังงี้แล้วอย่าเสียดาย เสียใจกับสิ่งที่คุ้นเคยจะหายไป แต่ให้ถามตัวเองดีกว่าว่า ณ วันนี้ ทำดีที่สุดแล้วหรือยัง

        ในเมื่อมี fb ที่ได้เจอเพื่อนเยอะๆ ได้เพิ่มเพื่อนหลายคน สามารถติดต่อกับเพื่อนได้สะดวกกว่าเดิม อยากคุยอะไร ก็ติดต่อกันตรงตัวได้เลย ไม่ต้องผ่านสื่อกลาง

นกน้อย พรรณทิพา ภูอองทอง และ ชัยสุนทร วิเศษนันท์ ใน facebook

            เมื่อมี kpsgang ใน facebook และชวนเพื่อนๆมาเจอกันใน facebook ตั้งแต่ 20 พ.ค.2553 เกือบ 3 เดือนแล้ว มีเพื่อนโผล่เข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุด นกน้อย พรรณทิพา ภูอองทอง น้องสาวของพี่ไก่น้อย - จารุวรรณ ประทุมศรี (ภูอองทอง) ที่หลายคนถามถึง และอุ้ม ชัยสุนทร  วิเศษนันท์ จากอุดรธานี ก็เข้ามาใช้ facebook เรียบร้อยแล้ว


            คุยกับนกน้อยใน facebook เธอบอกว่า ไม่ได้ติดต่อกับเพื่อนมานานแล้ว หลังจากเมื่อ 2-3 ปีก่อน เพื่อนสนิมในแก๊ง ยกขบวนไปเที่ยวบ้านเธอ อย่างสนุกสนาน เป็นกันเอง ทำกับข้าวกินกัน ม่วนหลาย ..

            ส่วนอุ้ม ชัยสุนทร เข้ามาแชทออนไลน์ นี่ก็บอกว่า ตั้งแต่เจอกันที่อุดร กับหยกฟ้า และอานนท์เมื่อปลายปีที่แล้ว ก็ยังไม่มีโอกาสได้เจอเพื่อนอีกเลย ก็แหม... เห็นแต่รูปพาแฟนไปเที่ยว  ดูแล้วอิจฉาเจงๆ ซึ่งรูปของอุ้มที่ไปท่องเที่ยว ก็อยู่ใน facebookของอุ้มนั่นเอง ว่าแล้วก็หยิบรูปที่อุ้ม ชัยสุนทรไปเที่ยว มาให้ดูเรียกน้ำย่อยกันก่อน


photo kpsgang



photo kpsgang



photo kpsgang





            นี่คือ อัมบั้มรูปจาก facebook ของอุ้ม ชัยสุนทร ถ้าติดตาม kpsgang คงเคยเห็นรูปถ่ายของอุ้ม มากมายหลายรูปที่ส่งมาให้ลงในเวบ คราวนี้มี facebook แล้ว เอารูปสวยๆมาลงได้อย่างเต็มที่ รูปที่เอามาให้ดูนี้ ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น  เข้าไปดูอัลบั้มรูปสวยๆของอุ้มได้ที่ facebook ของอุ้มได้เลย


        แต่ต้อง ล็อคอินเข้า facebook ก่อนนะ ถึงจะเข้าไปดูได้
               

วันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2553

"ลบรูปงานแต่งบิ๊ก ออกจาก facebook ให้ด้วย"

            ตอนสายวันศุกร์ที่ 6 ส.ค. มีโทรศัพท์มาบอกว่า "ช่วยลบรูปงานแต่งบิ๊กออกจาก facebook ให้ด้วย" ความจริงแล้ว เค้าก็มาเขียนบอกไว้ใน facebook เมื่อวันพุธด้วยข้อความนี้แหละ


            แหม... ทำใจยังไม่ได้หรือ บิ๊กเค้าก็แต่งงานมาแล้ว 2 สัปดาห์ จะให้ลบรูปงานแต่งบิ๊ก ออกหมดเลยเหรอเนี่ย เพื่อนที่ยังไม่ได้ดูก็มี


            ลองถามเพื่อน 2-3 คน คิดยังไงกับคำขอนี้ รูปงานแต่งน่ะ มีรูปเพื่อนคนอื่นด้วยนะ
            ..หรือว่า เขาให้ลบเฉพาะรูปของเขาที่มี  ก็ไม่ได้ถามให้ชัดว่า จะให้ลบทั้งหมดทุกรูปหรือลบเฉพาะรูปของเค้า


            "ถ้าตัดใจไม่ได้ เห็นภาพไหนก็คงแสลงใจไปหมด"
           
            เพื่อนอีกคนให้ข้อคิดว่า เค้าควรจะรู้ตัวได้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร เพื่อนก็ช่วยเตือน เค้าก็ยังไม่สนใจ จะหาทางจีบอีก แต่ก็ยังทำอะไรไม่ค่อยจะเข้าท่า เพื่อนๆก็เอามานินทา จนรู้กันไปทั่ว เค้าก็ยังเหมือนเดิม


            ก่อนออกจากบ้าน คนเราแต่งตัว ส่องกระจก ดูตัวเองว่า แต่งตัวดีรึยัง ถ้าดีแล้ว ก็มั่นใจ ใครเห็นก็ชอบ แต่เค้า..ที่ยังทำใจไม่ได้ ก็เหมือนกับคนที่ไม่ยอมส่องกระจก เพื่อนคอยเตือน แซวให้อายก้แล้ว ก็ยังเหมือนเดิม พอเห็นรูปในเวบแล้ว คงเห็นความจริงล่ะสิ ก็ทำตัวเองให้ดูไม่ดีซะเอง ..เพื่อนบอกว่า ไม่ต้องลบหรอก มันจะได้เป็นแรงผลักดันให้เค้าทำตัวเองให้ดีขึ้น ดีขึ้น  ใครก็อยากเห็นเพื่อนเรา ดีขึ้นด้วยกันทั้งนั้น


            เห็นอยู่ในอาการตัดใจไม่ได้ ก็ห่วงเหมือนกัน เจอหน้าก็ต้องแซว ตอกย้ำให้รู้สึกตัวซะมั่ง


            ไม่ว่าที่ผ่านมา เค้าจะทำตัวไม่เข้าท่ายังไงก็ช่าง แต่เพื่อนที่เคยอยู่ห้อง 6/2 คนนี้บอกว่า อยากให้เค้ายอมรับความจริง แล้วทำตัวเองให้ดีๆ มีคุณค่าและเจ๋งกว่าเดิม ..แล้วจะเจอผู้หญิงที่ดีเข้ามาในชีวิตแน่นอน

            รูปในเวบก็ไม่ต้องลบ เอาไว้ให้เพื่อนได้ดูแก้คิดถึงมั่ง เค้าจะเป็นยังไงก็ช่าง แต่เค้าคือเพื่อนของเราเสมอ

วันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2553

3 คลิปวิดีโอ มิตติ้ง เปิดใจหมู ภราดร กับปัญหาคาใจงานเลี้ยงรุ่น

            ถ้าพูดถึงเรื่องงานเลี้ยงรุ่น, ประธานรุ่น .. เพื่อนหลายคนมีสิ่งที่คาใจ อยากวิจารณ์, สงสัยหลายอย่าง มีทั้งคนที่เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย ไม่เข้าใจหลายอย่าง ทำไม ทำแบบนั้น ทำไมไม่เป็นแบบนั้น , ประธานรุ่นเป็นใครกันแน่ อยากให้จัดงานแบบนั้นแบบนี้ จัดที่นั่น ที่นี่ ฯลฯ  ถ้าฟังเพื่อนแต่ละคนที่เสนอมา ก็ดีมีเหตุผลด้วยกันทั้งนั้น แต่เพื่อนหลายคนไม่มีโอกาสได้ฟังกัน แม้แต่การเขียนข้อความในเวบ บางทีสั้นเกินไป ไม่ชัดเจนในบางประเด็น , ไม่มีเรื่องที่อยากรู้  เพื่อนก็วิจารณ์กันต่อไป


            แค่พูดถึงงานเลี้ยงรุ่นที่ผ่านมา หรือพูดถึงชื่อเพื่อนไม่กี่คน หลายคนก็วิจารณ์ทันที อย่างชื่อ หมู ภราดร เพื่อนที่ไม่ค่อยสนิท ก็วิจารณ์ทันที เละเลย


            27 ก.ค. 2553 วันเข้าพรรษา เมื่อจ่าเตี้ย ประพันธ์ศักดิ์ มาเยี่ยมบ้าน เลยนัดให้เจอกับองอาจ และพาไปเยี่ยมภราดรถึงบ้าน เปิดขวด เติมเหล้าผสมโซดา ใส่น้ำแข็งคนละแก้ว แล้วภราดรก็พูดเปิดใจเรื่อง เลี้ยงรุ่นให้ฟังอย่างตรงไปตรงมา เป็นเรื่องที่หลายคนคาใจ  แต่ไม่มีใครพูดเปิดใจให้ฟังแบบนี้ เลยต่างคนต่างคิด วิจารณ์กันไปเอง


            เพื่อนที่ขัดแย้ง ผิดใจกัน เพราะไม่มีโอกาสฟังเพื่อนเปิดใจพูด แค่เสียเวลาฟังนิดหน่อย แต่เข้าใจเพื่อนถูกต้อง ดีกว่าไม่ใส่ใจฟังแล้วไปคิดเอาเอง แล้วผิดใจกันไป  นายบอนเอาคลิปวิดีโอนี้ไปให้เพื่อนบางคนฟัง แค่บอกว่า ภราดรพูด ก็ด่าทันที ขอให้ฟังสักนิด ก็ไม่สนใจ จะด่าลูกเดียว พอบอกว่า เค้าพูดถึงนายด้วยนะ แรงซะด้วย เพื่อนเลยสนใจฟังจนจบ พอฟังแล้วก็เข้าใจเพื่อน บอกว่า "ทำไมไม่พูดแบบนี้ตั้งแต่แรก เพื่อนจะได้เข้าใจกัน"






            เรื่องเลี้ยงรุ่น ประธานรุ่น และอีกหลายเรื่องที่ยังคาใจไม่มีใครรู้ว่า ต่อไปจะเป็นยังไง จะผิดใจกันมากกว่าเดิมรึเปล่า เลยถอดคำพูดมาให้อ่านกันเลย เพื่อนคนที่เอาไปให้ฟัง ตอนแรกแทบจะไม่เชื่อว่า ภราดรเป็นคนพูด และคิดแบบนี้ได้ พึ่งได้รู้จักเพื่อนมากขึ้นก็คราวนี้เอง (ก็ที่ผ่านมา ไม่ได้คุยกันเลย ขนาดเอาวิดีโอลงเวบ ก็ไม่ค่อยมีเวลาดู แล้วก็เข้าใจเพื่อนผิดๆไปอีก)
ถ้าใครอ่านแล้ว ก็เอาไปเล่าสู่เพื่อนรับรู้ด้วย เพราะเรื่องนี้ เพื่อนมีโอกาสที่จะฮักกัน พอๆกะผิดใจกัน...

----- ตัดมาบางช่วง -----


ภราดร "..มีทั้งศูนย์เรียนรู้ บ้านทรงอีสาน...."

อร "เฮือนสวนดรทำ เขียนป้ายไว้ ทำมาแล้ว 6 ปี..."

ดร " .....เลยไปซื้อทาวน์เฮาส์ เฮ็ดร้านลาบ ร้านก้อยกาฬสินธุ์ เขาก็เลยเจริญรุ่งเรือง คิดๆดู ก็เลยกลับมาอยู่บ้าน สร้างบ้านของอีสาน เป็นศูนย์การเรียนรู้ต่างๆ เอาเงินที่เจ้าของหามาได้ทั้งหมด 30 ล้านนี่มาลงทุนในเนื้อที่ 50 ไร่ สร้างหมู่บ้านเป็นบรรยากาศของคนอีสานแท้ๆ..."

บังอร " มันจะมีโรงเรือน มีห้องนอนพร้อม มีเวทีด้วย เพราะมีคนไปจัดอบรมหลายอย่าง...."

ดร "อยากให้หมู่พวกเฮามารำลึกถึงอีสานบ้านเฮา แผ่นดินเกิด กลับมาซะเพื่อน คืนกลับมาบ่ได้ เอ้าหาอีหยังมาสร้างประโยชน์กับบ้านเฮาซะ มึงเห็นบ่นิ   เขารวยซำได๋ เขาทุบเงินมาสร้างตรงนี้แล้ว ให้พวกหมู่เฮานี่มีความคิดซะ กลับมาบ้านเฮาซะ หรือ กลับมาบ่ได้ เฮ็ดประโยชน์ให้บ้านเฮาซะ รำลึกถึงแผ่นดินเกิดนี่ละ "

จ่าเตี้ย " บัดนี่... เวลาจัดงานนี่ อย่าเป็นวันหยุดราชการเถาะ "

ดร " คือ มันมีเวลาเหลือหลายอยู่เพื่อน แต่ว่าตอนนี้ ประธานคือ หมออุกฤษฎ์  รองประธานคือ บักกุ้ง มันจะต้องประชุมกันก่อน คือ เฮาบ่ได้เป็นคณะกรรมการ เฮาขอตัว ทุกสิ่งทกุอย่างเฮาบ่เอา แต่ว่าเฮาสิขอเพิ่มเติมหรือแทรกในส่วนของประสบการณ์ที่ผ่านมาในการจัดงาน มันเกิดอุปสรรคตรงได๋ เกิดปัญหาตรงได๋ เป็นเพราะหยัง เป็นเพราะรูปแบบการจัดงาน เป็นเพราะสถานที่เบ่าะ เป็นวันเวลาจัดงานเบ่าะ เอาประสบการณ๋มาไล่กันทั้งเมิด เฮากะสิถ่ายทอดไป ก็แล้วแต่คณะกรรมการเขาสิว่าจังได๋ อันนี้บ่แมนหน้าที่ของเฮา  เฮาต้องให้เกียรติเขา ส่วนปีหน้า ไผสิอยากเป็นกะเสนอมา กะให้เป็น หรือจะเอาประธานดีดที่ลงเวบกันหลายๆนั้น เอาประธานดีดมาเป็นซะกะได้ แต่ว่าที่แน่ๆ ในเวบนิ เฮาได้รู้ว่า ไอ้เรื่องประธานที่หลายคนบ่เข้าใจว่า เรื่องประธาน เป็นหยังประธานรุ่นมีอยู่แล้ว เป็นหยังจังเลือกประธานใหม่ ประธานตรงนี้มันคือ ประธานจัดงาน มันบ่แม่นประธานรุ่น  ประธานรุ่นยังคือ ดีด คือเก่า บ่เคยไปลบหลู่ บ่แม่นบ่ให้เกียรติ แต่ว่าด้วยการที่สังคมเฮา หัวแต่มาพ้อกันซ่ำนี่ กลุ่มซ่ำนี่ เฮามาพ้อกัน มาจัดงาน ซะใจ อยากให้เวียนกันทั้งเมิด รุ่นนี่มีกันจักคนให้มันเวียนกันทั้งเมิด  ให้มีโอกาสได้มาเป็นประธานในการจัดงานทั้งเมิด หรือผู้ใด๋อยากเสนอผู้ใด๋ในปีใด๋ ก็เฮ็ดเอา เฮานี่ไปทุกงาน และพร้อมสนับสนุนเต็มที่ เพราะงานเริ่มต้น มันเกิดจากบ้านเฮา มีผู้พิพากษามา มีหมู่มา เขาเอาบักมี่ เอาหยังมา  เฮายังจำมื้อนั้นได้อยู่ มาโฮมกัน มาโดยบ่ได้นัดหมาย มีแต่ว่า เฮ้ย บ้านบักดรเด้อ บ้านบักดรเด้อ ครั้งแรกน่ะ เป็นหยังคือสิไปริเริ่มจัด ไอ้ทางหมู่ทั้งหลายเขาก็เลยว่า คือบ่จัดเป็นทางการ  ปีนั้นมาว่าเป็น 30-40 คนเด๊ะ มาเฮือนเฮาเต็มเดิ่นเหมิด เฮาเดินมา เฮาก็ยังงงอยู่ หมู่มาได้จังได๋ ผู้นี่ก็ฮู้จัก มาปีใหม่  เผอิญว่าปีใหม่ปีนั้น หมู่เฮาเสือกลงมาหลาย  มันกะเลยมาโฮมกันอยู่เฮือนเฮา ก็เลยว่า เอาจังซี่มึงเป็นประธานจัดงานปีหน้า  พอดีกูมีร้านอาหาร ก็จัดอยู่ร้านเลยไป๋ เออ ก็จัด ..แล้วเฮาเปลี่ยนกันเป็นเด้อ อย่าให้กูเป็นผู้เดียวเด้อ กูบ่เอาเด๊ะ กูจัดให้เพราะเฮามาโฮมกัน แต่ว่า จัดนี่ กูเป็นสถานที่ให้ หมู่พวกทุกคนต้องซอยกัน สื่อไปกับหมู่ทุกคน ปีหน้าเปลี่ยนกันไป เปลี่ยนให้มันเป็นไปทุกคน  ผู้ใด๋เลือกให้เป็น ก็ให้เกียรติเขา เลือกกันไป จนถึงตอนนี้ เป็นหมออุกฤษฎ์ กะให้เกียรติหมออุกฤษฎ์ไป  เฮาบ่เคยไปยุ่ง เฮามีแต่บอกว่า เฮาเห็นเวบว่าจังซี่เด้อ อุกฤษฎ์ ว่าร้านเฮานี่รู้สึกว่ามันจัดมาหลายเทือ หมูกะว่าแน ชอบแน เอาจังซี่ เพื่อตัดปัญหาไป หมออุกฤษฎ์เจ้าหาสถานที่ หม่องได๋ที่เหมาะสม แล้วแต่ประธาน แล้วแต่คณะกรรมการสิคุยกัน หม่องได๋ก็ได้ เฮือนไผก้ได้ เฮาก้พร้อมที่จะไป  พร้อมที่จะประสานหมู่ให้ ในส่วนกลุ่มของหมู่เฮา เอาสิประสาน ขยายกันไป ตอนนี้ก็แบ่งเขตกันไป เพราะว่าปีหน้านี่ เฮาบอกว่า แบ่งเขตกันซะ กรุงเทพนี่ เอาไผ  เอาบักอ้ายเบ่าะ เอาเจ้าเบ่าะ เป็นแกนนำซะก่อน ภาคกลาง ภาคใต้ มีหมู่บ่ อีสานเหนือ อีสานใต้ ก็ว่ากันมา รวมกันมาจังซี่ ให้แต่ละแกนนิ ขยายออกไป  หมู่สิมาโฮมกันล่ะ ลงเวบ ในเมื่อมีเวบแล้ว ใช้ให้มันเป็นประโยชน์ เอาเป็นวันที่เท่านี้ดีบ่ ให้ลงมา เอาเป็นประชามติ อยู่ในเวบเลยก้ได้ ละก็เลือกมื้อกันไป หมู่เฮากะสิได้ลงมากันหลาย บ่แมนว่าจัดไปคนน้อยไป มันเสียความตั้งใจแท้ๆ มันบ่แม่นแนว เอาเป็นว่า ปีนี้มันเยอะเท่านี้ ปีหน้าให้มันเยอะๆขึ้นๆๆๆ บ่แม่นว่า เฮาเสียใจเด้ ปีวางฮั่น  เฮาก็บ่กล้าวิจารณ์ว่า ด้วยสาเหตุหยัง เฮาบ่อยากวิจารณ์ อย่าให้เฮาวิจารณ์ ด้วยจากสาเหตุหยัง อันนี้แล้วแต่ แต่ละคน ที่เฮามอง  เฮาฮู้สึกว่ามันลดลง เฮาฮู้สึกว่าบ่ซำบายใจ ว่ามันคือ เพิ่มขึ้นๆๆ เป็นหยังมันคือ ตกลง มันบ่น่าเป็น มันจะต้องเพิ่มขึ้น เฮาก็เลยบอก คุณหมอซึ่งเป็นประธานว่า หมอเฮ็ดดีๆเด้อหมอ ฮุมกับกรรมการดีๆ คุยกันดีๆ คลุกกันดีๆ คุยกันหลายๆเทือ และให้มันเป็นไปได้ เพราะว่าต่อไปนิ เพื่อนเฮา อีก 4 ปี ข่อยบอกเลย หมู่เฮา จะเป็นรุ่นเฮาแล้วที่จะนำการพัฒนา บ่ว่าท้องถิ่น บ่ว่าบ้านเฮา บ่ว่าราชการ มันถึงระดับที่สามารถจะไปจัดการอีหยังได้แล้ว หมู่พวกสามารถพึงพากันได้แล้ว พึ่งพากันบ่แม่นเงินทอง แต่พึ่งพากันว่า ลูกน่ะ ฝากแน ฝากเบิ่งลูกแนเด้อ ฝากเบิ่งอันนี่ หมู่กูแนเด้อ ฝากเบิ่งอันนี้ให้กันแน่เด้อ นี่คือ จุดประสงค์ เป้าหมายอีหลี พึ่งพากัน....."

++ ตัด ++++

ดร " ....เฮาบอกว่า โอ๋ เฮาสิคุยกับอาษาอยู่ เรื่องเวบนี่ อย่าเอามาเป็นข้อประเด็นี่จะต้องถกเถียง อยากให้ประเด็นที่เพื่อนเฮาได้เชื่อมกัน เป็นสื่อประสาน  แม่นบ่ ... อย่าให้เป็นการแสดงความคิดเห็น มันจะเกิดการขัดแย้ง ..."

บอน " facebook มันเปิดกว้างแล้ว ใครก็เขียนได้ "


ดร " เข้าใจ มันเปิดกว้าง มันเลยมองเป็น .. เฮาเว้ากับโอ๋เลยว่า เฮ้ยๆๆ อันตรายแล้วนะ มันไม่ใช่เวทีที่จะทะเลาะแล้วนะ มันกว้าง คือ เฮ็ดจังใด๋ เฮาจังสิบีบเวบตรงนี่ บีบลักษณะว่า ให้อาษาขึ้นไว้เลยกะได้ว่า จุดประสงค์หรือเป้าหมาย ของเวบเลย..เวบนี้เพื่อให้ทุกคนได้มาร่วมกัน สามัคคีกัน หรือ ติดต่อประสาน ใครมีอะไรก็บอก....


...แต่ใจเฮา ยุคนี้ มันเป็นยุคไอที ที่จะสามารถโต้ตอบกันได้ นี่แหละ เฮาก็เลยเสียวแมะ เฮาเกิดความเสียวในใจว่า เฮ้ยๆๆๆ พอเฮาไปอ่านแล้ว เฮ้ยๆๆ มันล่อแหลมนะ จนบางเทือ กูบอกว่า  กูบ่ตอบโว้ย กูบ่ลงไปดีกว่า เดี๋ยวคนอื่นสิมาว่า....."


-----------------------------------
โห ถอดคำพูดคำต่อคำ แค่นี้ใช้เวลาเกือบชั่วโมง ถ้าคลิกฟัง ก็แค่ไม่กี่นาที เท่านั้น
------------------------------------

ในคลิปวิดีโอที่ 2 และที่ 3 ล้วนประเด็นร้อนทั้งนั้น เชิญคลิกฟังเองเด้อ




- ข้อเสนอแนะ ปัญหาในการจัดงานเลี้ยงรุ่น
- ปัญหาการจัดงานในช่วงเทศกาล หรือ ควรจัดนอกเทศกาล
- การกำหนดช่วงวันเลี้ยงรุ่นของ กพส. ปัญหา ภาวะ อุปสรรค เรื่องของระยะเวลา
- การติดตามรูปแบบจากประธานจัดงาน+คณะกรรมการ
- ภาพรวมของการคุยกันนอกรอบที่จะนำไปเสนอคณะกรรมการ





-อยากให้การรวมกันออกมีดี เพราะจุดเริ่มต้นคือที่นี่
- มองไปข้างหน้า สิ่งที่เกิดถือเป็นประสบการณ์ จะแก้ไขปัญหา รวมเพื่อนยังไง
- การหาทหนทางให้เพื่อนมาโฮมกัน
- รูปแบบการแบ่งทีมเพื่อน + ประสานงานการเลี้ยงรุ่น
- การกำหนดขอบเขต เพื่อนที่จะมาร่วมงาน จะเอากลุ่มไหน แค่ไหน ใครบ้าง ??

วันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2553

บันทึกการเดินทาง แวะพักค้างที่บ้าน+แวะที่ทำงานของจ่าเตี้ย พ.จ.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ดลรักษ์

           ก่อนเที่ยง 1 สค.2553 เมื่อมีคำสั่งด่วนให้ลงไป กทม. นายบอนก็ออกเดินทางทันที มาถึงโคราชตอนบ่าย 3 โมง แวะพักเหนื่อย กินข้าว และโทรคุยรายละเอียดการนัดพบ การเดินทางให้ชัดเจน ซึ่งจะต้องไปเจอตามนัดในตอนเที่ยงวันที่ 2 ส.ค. เมื่อมาถึงโคราช ก็เลยโทรไปหาดีด ฉัตรชัย กับ อำนาจ แสงสุข ว่าจะชวนให้ออกมาเจอกัน กินข้าวเย็นกัน เจอกันหน่อย ฝ่ายอำนาจ แสงสุขน่ะ โอเค แต่ดีด ฉัตรชัย ไม่สะดวก  ไม่อยากออกมาจากสีคิ้ว เพราะไม่อยากเมา เดี๋ยววันจันทร์ทำงานไม่ได้เต็มที่ เลยไม่ได้มิตติ้งกัน เลยกดโทรศัพท์ไปหาจ่าเตี้ย แวะไปพักค้างที่บ้านจ่นเตี้ย ที่บางปะอิน อยุธยาด้วยเลย จ่าเตี้ยก็โอเค เพราะตอนเช้า จะขับรถเข้า กทม. ไปทำงานตอนตี 4 ครึ่ง


            จากโคราชมาถึงประตูน้ำพระอินทร์ตอน 3 ทุ่ม รอครึ่งชั่วโมง จ่าเตี้ยก็ออกมารับ ที่จริงแล้ว พึ่งเจอจ่าเตี้ยเมื่อ 5 วันก่อน ที่กาฬสินธุ์  แต่ก็แวะมาหาอีก ความจริงจะไปพักที่โรงแรมก็ได้ แต่การแวะมาค้างบ้านเพื่อน มีความพิเศษมากกว่า แม้สถานที่ไม่สะดวกสบายเหมือนพักโรงแรม แต่อบอุ่นกว่ากันเยอะ



            จากท่ารถ จ่าเตี้ยก็พามากินก๋วยเตี๋ยวริมทางร้านประจำหน้าปากทางเข้าหมู่บ้านอินโดที่จ่าเตี้ยพักกับครอบครัว นายบอนมาทุกครั้งก็ได้แวะมากินจนเป็นร้านประจำไปซะแล้ว  จ่าเตี้ยก้โทรหาสุขสันต์ โดยขอเบอร์โทรมาจากมดแดง ซึ่งเป็นการโทรคุยกันครั้งแรก ทั้งๆที่สุขสันต์มาทำงานแถวอยุธยา อยู่ห่างจากบ้านพักจ่าเตี้ยแค่ 5-6 กม. แต่สุขสันต์ ไปพักแถวสุพรรณบุรี คงจะได้เจอหน้ากันในเร็ววันนี้



            เมียของจ่าเตี้ยจะโทรมาเช็คบ่อยๆว่า ถึงไหนแล้ว อยู่ไหน ทำไมช้าจัง จ่าเตี้ยก็พูดตอบเสียงนุ่มๆกลับไป 4 ทุ่มก็เข้าบ้าน คืนนี้เมียจ่าเตี้ยอยู่บ้าน ไม่ได้เข้าไปทำงานที่โรงงาน คงเป็นวันหยุดของเธอ ...ช่วงที่ "ตาอ้วน" (เมียเรียก จ่าเตี้ย แบบนี้) เข้าไปอาบน้ำ เมียจ่าเตี้ยก็มานั่งคุยเป็นเพื่อน เล่าให้ฟังว่า ช่วงเข้าพรรษา จ่าเตี้ยพาไปดูงานแห่เทียนที่กมลาไสย เพราะที่ชัยนาท บ้านเมียของจ่าเตี้ย ไม่มีขบวนแห่ในลักษณะแบบนี้  และไปทำบุญด้วย  ไปเจอฝนตก ตากฝนจนจ่าเตี้ยเป็นไข้ ไม่สบาย เมียก็จัดยาให้กิน มาถึงวันนี้ 1 สค จ่าเตี้ยก็ยังไม่หายไข้ ยังไอโขลกๆ อยู่ ..วันนี้ วันหยุด เลยพากันทำกับข้าวกินกัน - กลิ่นปลาทู ปลาเค็ม ยังเหลืออยู่ในบ้าน "ตาอ้วน" กินจนแน่นท้อง



            เจอเมียจ่าเตี้ยครั้งนี้ แหม ...อ้วนขึ้นเหมือนกันนะ 4 ท่มก็ปิดไฟเข้านอน นายบอนนอนบนเก้าอี้ยาวข้างนอก ตั้งเวลาตื่นตอนตี 3.55 น. แล้วก็นอนหลับ เมียจ่าเตี้ยก็บอกให้ตาอ้วน แง้มประตูดูเพื่อนว่า นอนได้มั้ย เห็นแสงไฟแง้มประตูโผล่มาดู  "โอ้..เค" แล้วจ่าเตี้ยก็งับประตู เข้านอนด้วยความง่วง  เห็นจ่าเตี้ยดูเฮฮาแบบนี้ แต่ชีวิตรักน่ะ หวานซ้า..... เห็นเพื่อนหลายคน ยังไม่หวานเท่าคู่ของจ่าเตี้ยเลย



            แป็บเดียว ตี 4 ซะแล้ว อาบน้ำ ขนกระเป๋าขึ้นรถ 4.20 น. จ่าเตี้ยก็ขับรถออกมาจากบ้าน ขับรถออกมายังดูสะลืมสะลือ จ่าเตี้ยบอกว่า นอนไม่เต็มอิ่ม ยังมีไข้อยู่ หยิบยาลมมาดมเป็นระยะๆ ตี 5.20 น. ก็มาถึงที่ทำงาน กกพร. กพร. ทร. เปิดห้องทำงานเข้าไปนั่งเปิดแฟ้มงาน เปิดคอม ชงกาแฟกิน นายบอนเลยได้ไปนั่งรอเวลาที่ห้องทำงานจ่าเตี้ย ที่ย้ายมาจากอาคารหลังเดิม


หลังทีวีที่บ้านจ่าเตี้ย ที่อยุธยา


ที่ห้องทำงานจ่าเตี้ย






            6 โมงเช้า ก้ได้เวลาออกเดินทาง จ่าเตี้ยเดินออกมาส่งขึ้นรถเมล์สาย 25 หน้าราชนาวีสโมสร เดินทางต่อไป

Labels

video (85) photo (55) news (43) งานแต่งงาน (23) memories (21) ประพันธุ์ศักดิ์ ดลรักษ์ (20) องอาจ ห่อพาน (20) วุฒิชัย ชุษณะโยธิน (18) ฟ้ารุ่ง ภูปรางค์ (13) อุมาพร ภูพานเพชร (13) KPSName (12) ประหยัด อุ่นใจ (12) ชัยรัตน์ คำภิรมย์ (9) สุขสันต์ อุดรศรี (9) chaiyos kunchit (8) กนกพร ทรัพย์เจริญ (8) วาสนา ภูลายศรี (8) ยงยุทธ วงศ์วันนา (7) ชัยสุนทร วิเศษนันท์ (6) ธินกรณ์ แสนนาม (6) ภราดร เนตวงษ์ (6) สุวรรณา ชัยนาม (6) หยกฟ้า แซ่ลิ้ม (6) อุกฤษฏ์ อุชุภาพ (6) ตะวัน ศิลารัตน์ (5) นวลจิต ถาวร (5) สิริวิภา ศรีปลั่ง (5) สุปรียา ฤทธิ์ขจร (5) อรจิตร บุญเลืองลือ (5) ก.พ.ส. (4) จักรพันธ์(ณัฐดนัย) พันวาสนา (4) ตวงทิพย์ รุ่งเรือง (4) วิทัศน์ วรรณชัย (4) ศตะรัชต์ สำราญสม (4) สุมาลี เขจรภักดิ์ (4) อำนาจ แสงสุข (4) อิสริยา พงษ์สิทธิศักดิ์ (4) เสนีย์ ศรีสวัสดิ์ (4) กันยารัตน์ บรรณสาร (3) ค้ำฟ้า คิสาลัง (3) จารึก ประคำ (3) จุฬาพร เชตวัน (3) ชัยวุฒิ สุวรรณเรือง (3) ณัฐนนท์(สมศักดิ์) ภูอวด (3) ธวัชชัย ถึงฝั่ง (3) นุชนาถ พลยิ่ง (3) บังอร ชุมอภัย (3) ปรัชญา(ธัชพล)คาดีวี (3) วาทการ มูลไชยสุข (3) สลิลรัตน์ ราชา (3) สวรรค์บดี สุวรรณเลิศ (3) สุภาพร พลอยแสงเงิน (3) เพลินพิศ ป้องวิชัย (3) แซม-วิทวัส (3) กวีพงษ์ อุ่มอ่อนศรี (2) ขวัญนภา ถนอมพุธ (2) ธนวรรธว์ จันทรสุวรรณ (2) ธารินี ไชยมาตย์ (2) ธิปไตย ฉายบุญครอง (2) ธีรนันท์ บรรณกิจ (2) นิตยา นนทราศาสตร์ (2) พรรณี สีนางใย (2) พัชราภรณ์ คาดีวี (2) ภิรมย์ พรหมเจดีย์ (2) ศิริรัตน์ เกตุปรากฏ (2) สง่า บุญโสดา (2) สุขใจ แสงพินิจ (2) อานนท์ ลักษณะสกุลชัย (2) เชิดพงษ์ มณีบู่ (2) เนาวรัตน์ พินิจการ (2) เพ็ญจันทร์ สมเพียร (2) เอนก ภูสง่า (2) กมล ปุงสัมฤทธิ์ (1) กิตติศักดิ์ อุเทศ (1) ครรชิต ภูคงน้ำ (1) จริยาวดี บุญขจร (1) จิตรา ศรีชาติ (1) จินดา ภูทองหล่อ (1) ฉัตรชัย ภารจินดา (1) ชัยสิทธิ์ ฆารเจริญ (1) ชาลี สุพลแสง (1) ต่อชาติ ฆารไสว (1) ทรงสิทธิ์ ทองจรัส (1) ทองเทศ ภูมูลนา (1) นพดล ศุภภูธร (1) น้อย ลาภิสรา (ปราณี) (1) บัญชา ยมภา (1) ปฏิพัทธ์ เอี่ยมอร่าม (1) ประกิจ จังโกฏิ (1) ประวุธ ภูทองแหลม (1) ประเวทย์ ศรีชานิล (1) ปริญญา คงแสนคำ (1) ปัญญาภรณ์ สุดแสนยา (1) ปัทมา แสนเมธา (1) ปิยพัฒน์ วงศ์ศรี (1) พรทวี เทพาศิริ (1) พรรณทิพา ภูอองทอง (1) พรหมเจริญ จำเริญไกร (1) พิสิษฐ์ ผลเจริญงาม (1) ภานุมาศ โปลิศ (1) มณีรัตน์ บุญเรือง (1) มังคลาวุธ รังหอม (1) มานะ กิจหิรัญ (1) ยนตจิตร เนาวโรจน์ (1) ยุทธพงษ์ ทับทิมไสย (1) รัชนีกร พิมพ์แก้ว (1) รัตนดาวรรณ ชาตรี (1) ฤทธิ์รง จังโกฎิ (1) ละอองดาว พลไกรษร (1) ลิขิต ถนอมสงัด (1) วิชาภรณ์ เลิศวีรพล (1) วิญโญ ภูจ่าพล (1) วิศัลย์ เสาหิน (1) วิษณุกร กุลชิต (1) วีระพงษ์ ภูจีระ (1) ศิริลักษณ์ เพาะเจริญ (1) ศิวพร ฉวีราช (1) สมพงศ์ วังเสนา (1) สมศักดิ์ โยธาศรี (1) สุจิตรา ไทยทำนัส (1) สุจินต์ ภูเขม่า (1) สุภาวดี วงศ์แสน (1) สุรดี มาตรเลี่ยม (1) อรรถพร สุนทราทรพิพัฒน์ (1) อลงกรณ์ เจริญสุข (1) เกศินี สมศรี (1) เกษร มีหอม (1) เดือน-วงศกร (1) เสาวลักษณ์ ชื่นนิรันดร์ (1) แรม โยสะอาด (1) ไชยวัฒน์ ภูงามเงิน (1)

KPSGang WEBBOARD

ข่าวคราวชาว กพส. ที่น่าอ่าน